บทความที่คล้ายกัน
-
พัฒนาการเด็กวัยแรกเกิด - 1 เดือน
ผดุงครรภ์ไทย ·21 ก.พ. 2562
-
มหาหิงคุ์ กับ อาการท้องอืดในเด็ก
ผดุงครรภ์ไทย ·6 พ.ย. 2561
-
คลอดก่อนกำหนด คืออะไร ???
ผดุงครรภ์ไทย ·31 ก.ค. 2561
-
อาการตะคริวน่องในคนท้องแก้ไขอย่างไร
ผดุงครรภ์ไทย ·30 พ.ย. 2560
-
อาการแพ้ท้องกับอาหารที่อยากกินตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย
ผดุงครรภ์ไทย ·3 ส.ค. 2560
สครับผิว(ขัดผิว) ดีอย่างไร
การสครับผิวหรือการขัดผิว เป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงสิ่งสกปรกที่ฝั่งลึกใต้เซลล์ผิวหนังให้หมดไป การขัดผิวยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้ผิวพรรณสวยใสเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมกระตุ้นให้เกิดผิวใหม่ที่กระจ่างใส โดยการขัดผิวหรือสครับผิวในปัจจุบันก็ยังเป็นที่นิยมในทุกวัยและตัวสครับหรือผงขัดผิวสามารถทำเองหรือหาซื้อเองได้ง่าย โดยส่วนใหญ่ที่นิยมใช้กันคือ มะขามเปียก น้ำผึ้ง ผงทานาคา ผงขมิ้น เกลือสปาขัดผิวหรือน้ำตาลทราย โยเกิร์ตหรืออาจจะใส่ กากกาแฟ นมสด เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น เนียนนุ่มให้กับผิว ส่วนวิธีการขัดผิวนั้นคือ ทำความสะอาดร่างกายก่อนขัดผิวหรือขัดผิวขณะผิวเปียก สามารถใช้อุปกรณ์ขัดผิว เช่น ใยบวบ เพื่อให้ได้ผลดีขึ้น ควรขัดวนไปมาเบาๆ บริเวณที่ต้องการหรือบริเวณผิวที่คล้ำ เช่น ข้อศอก เข่า ควรระวังบริเวณผิวบอบบาง เช่น ใบหน้า ขาหนีบ เพราะอาจจะเกิดการระคายเคืองได้ ระยะเวลาในการขัดผิวควรทำประมาณ 5-10 นาที และไม่ควรขัดผิวนานจนเกินไปเพราะอาจให้ผิวระคายเคืองได้ โดยเฉพาะบริเวณที่บอบบาง เมื่อเสร็จแล้วล้างออก ซับตัวให้แห้งด้วยผ้าขนหนูและอย่าลืมบำรุงผิว ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นทุกครั้งหลังการสครับผิว เพื่อป้องกันผิวแห้งเสีย
ควรสครับผิว บ่อยแค่ไหน?
การสครับผิว ความถี่นั้นขึ้นอยู่กับอายุและสภาพผิวด้วยเพราะผู้ที่มีอายุมากอาจมีสภาพผิวที่แห้งเกิดการระคายเคืองได้ง่าย นอกจากนี้สภาพอากาศยังเป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจากอากาศร้อนอาจทำให้เหงื่อออกง่ายและกระตุ้นให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมามาก ส่งผลให้เซลล์ผิวหนังเกิดการอุดตันหรือเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทั้งนี้ ไม่ควรสครับผิวทุกวันเพราะร่างกายต้องใช้เวลาในการผลัดเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ โดยผู้ที่มีสภาพผิวแห้งควรสครับผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนผู้ที่มีผิวมันควรสครับผิวสัปดาห์ละ 2-4 ครั้ง เนื่องจากเกิดการผลัดเซลล์ผิวช้ากว่าผู้ที่มีผิวแห้ง
ข้อควรระวัง?
การสครับผิวควรทำขณะผิวเปียก เพราะการขัดเนื้อสครับลงบนผิวที่แห้งอาจทำให้ผิวระคายเคือง ไม่ควรสครับผิวแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังอักเสบและมีปัญหาเรื่องจุดด่างดำตามมาได้ หากพบอาการระคายเคืองหรือมีผดผื่นเกิดขึ้นในขณะสครับผิว ควรหยุดสครับผิวแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้การสครับผิวอาจไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่เป็นสิวอักเสบ มีหนอง ผู้ป่วยโรคเริม หูดหรือผู้ป่วยโรคผิวหนังทุกชนิด ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพราะอาจเสี่ยงเกิดการอักเสบรุนแรงและติดเชื้อที่เป็นอันตรายได้
การสครับผิวหรือการขัดผิวก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในการดูแลสุขภาพ ดูแลตัวเองและสามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย คุณแม่หลังคลอดก็สามารถขัดผิวได้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรที่จะขัดผิวบ่อยเกินไปหรือแรงเกินไป และควรระวังในผู้ป่วยโรคผิวหนังหรือผิวแพ้ง่ายด้วยนะคะ
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.vaseline.com/th/th/articles/products-and-ingredients/how-to-exfoliate-your-body.html/
https://www.pobpad.com/
บทความโดย
พท.ปาลิตา สุรินยา นักวิทยาศาสตร์สุขภาพ โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย คณะการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์